วันที่ 8 มกราคม 2563
คณะทำงานเสริมสร้างชุมชนสัมพันธ์ สานฝันวันเด็ก ”งานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563” วันที่ 8 มกราคม 2563 คณะทำงานเสริมสร้างชุมชนสัมพันธ์ นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรม พื้นที่มาบตาพุดและบ้านฉาง หรือ คณะทำงานมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จัดกิจกรรม งานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ณ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้จัดเตรียมของขวัญส่งมอบความสุขให้กับน้องๆ มีฐานกิจกรรมต่างๆ สร้างความรู้และความสนุกสนาน ให้กับเด็กๆ ทั้ง 4 โรงเรียน ที่เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งความรู้ความปลอดภัยบนท้องถนน โดยทีมวิทยากรจากสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด โดยในปีนี้นายสุชาติ การะเกด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด 1 ใน คณะทำงานเสริมสร้างชุมชนสัมพันธ์ กล่าวรายงาน การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการสร้างความสุขให้กับเด็กนักเรียน จาก 4 โรงเรียนรอบนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ โรเรียนบ้านฉง โรงเรียนบ้านคลองทราย โรงเรียนวัดโขดหินมิตรภาพที่ 42 และโรงเรียนชุมชนวัดทับมา ซึ่งมี Theme ในการจัดงานเกี่ยวกับการรณรงค์เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากปัจจุบันจังหวัดระยองมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนอยู่ในลำดับที่ 10 ของประเทศ และมีการประกาศให้มีการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระจังหวัดระยอง โดยมีคณะทำงานเสริมสร้างชุมชนสัมพันธ์ 8 หน่วยงาน
ประกอบด้วย สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด,สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานกลุ่มมาบตาพุด,สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมาบตาพุด,บจก.ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นอินดัสเตรียล เอสเตท,บจก.โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส,บจก.ผาแดงพร็อพเพอร์ตี้ส์,บจก.อาร์ไอแอล 1996 และบจก.นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ในการรวมพลังสานฝันวันเด็ก นอกจากนี้ประธานกล่าวเปิดงาน ได้แก่ นางสาวนลินี กาญจนมัย ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้กล่าวถึงคำขวัญ ประจำปี ”เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” เป็นคำขวัญวันเด็กในปีนี้ของท่านายกรัญมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบให้เด็กและเยาวชน โดยให้คำนึงประโยชน์ส่วรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน มีวินัย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความอดทน ประหยัดและอดออม มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ซื่อสัตย์สุจริต และอนุรักษ์ความเป็นไทย และขอขอบคุณคณะทำงานทุกท่าน ซึ่งประกอบด้วย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจสนับสนุน ทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือกันจัดงานวันนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมที่ยั่งยืนต่อไป